การเปรียบเทียบพัฒนาการในแต่ละยุคสมัย
ช่วงรัชกาลที่1-3 ที่ผู้หญิงจะห่มสไบชาวบ้านจะนุ่งผ้าถุงหรือโจงกระเบนและห่มผ้าตะเบงมาน
หรือผ้าแถบคาดรัดอก การแต่งกายนั้นปรากฏในเอกสารหลายฉบับว่า
คนไทยในสมัยอยุธยาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นมากเมื่อเทียบกับชาติอื่น
มีชาวตะวันตกหลายคนที่ได้จดบันทึกเรื่องนี้ไว้โดยละเอียด อาทิเช่น ลาลูแบร์
ซึ่งได้พรรณนาไว้อย่างเห็นภาพพจน์ว่า
"ชาวสยามไม่ค่อยจะได้ห้อหุ้มร่างกายให้มิดชิดนัก
ชาวสยามไปไหนมาไหนด้วยเท้าเปล่ามิได้สวมหมวก เพื่อที่จะปกปิดสิ่งที่อุจาดเท่านั้น
เขาจึงพันเอวและขาอ่อนกระทั่งถึงหัวเข่าไว้ด้วยชิ้นผ้ามีดอกดวง
บางครั้งที่ไม่ใช้ผ้าลายเขียนนุ่งก็ใช้ชิ้นผ้าไหมเกลี้ยงๆ
บ้างหรือทอที่ริมเป็นลายทอง ลายเงินบ้าง" จากอ้างอิงของลาลูแบร์การแต่งกายในสมัยอยุธยานั้นเมื่อเข้าสู่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ยังคงแต่งแบบเดิมอยู่ส่วนการแต่งกายของชาววังนั้นแตกต่างกับชาวบ้านตรงเนื้อผ้าเพราะพวกชาววัง
ขุนนาง
ชนชั้นสูงจะใช้ผ้าทอเนื้อละเอียดสอดเงินสอดทองหรือผ้าไหมอย่างดีและห่มสไบเฉียงทับ เริ่มมีการปรับเปลี่ยนในช่วงรัชกาลที่ 4 เพราะประเทศตะวันตกเริ่มเข้ามามีบทบาทบ้างแล้ว
ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับความคิดแบบตะวันตกเข้ามา สำหรับการผู้หญิงนั้น
ชนชั้นสูงจะแต่งตัวแบบโบราณห่มพระภูษาตาด
พระสนมของพระเจ้าแผ่นดินสยามนุ่งกระโปรงแบบฝรั่ง เสื้อแบบฝรั่ง
ซึ่งเป็นการแปลกแหวกแนวที่สุด ทหารหญิงแต่งชุดทหารสก๊อต ผู้หญิงสามัญชนในสมัยนั้นจะแต่งกายแบบ
นุ่งผ้าลายโจงกระเบน นุ่งผ้าจีบ ใส่เสื้อผ่าอก คอตั้งเตี้ย ๆ ปลายแขน
แคบยาวถึงข้อมือ เสื้อพอดีตัวยาวเพียงเอว มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอีกคือ รัชกาลที่
6 โปรดให้ผู้หญิงนุ่งแบบใช้ผ้าซิ่น ผ้าซิ่นจะเป็นพวกซิ่นไหม
และซิ่นเชิงทอด้วยเส้นเงิน เส้นทอง และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือรัชกาลที่
8 มีการกำหนดเครื่องแต่งกายออกเป็น
3 ประเภท คือ เครื่องแต่งกายธรรมดา เครื่องแต่งกายทำงาน เครื่องแต่งกายตามโอกาส อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่าในอดีตการแต่งกายของผู้หญิงไทยนั้นแต่งตามความเหมาะสม
กาลเทศะ และแต่งตามสภาพภูมิอากาศของไทย
และที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างที่สะท้อนถึงปัจจุบันมากที่สุด
คือ รัชกาลที่ 9-10
เพราะได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้มีความหลากหลายไปตามความชอบ
และการออกแบบของแต่ละกระแสความนิยม
อาจมีการนำเอาการแต่งกายแบบสมัยยุคก่อนมาประยุกต์ให้เข้าสมัยมากขึ้น
เปิดกว้างด้านการแต่งกายของแต่ละเพศมากขึ้น ดังที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น